DATE
24.03.2023
สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ที่กำลังมองหาและเลือกซื้อคาร์ซีท ต้องบอกได้เลยว่าคาร์ซีทนั้นมีราคาที่หลากหลายมาก ตั้งแต่หลักพันต้นๆไปจนถึงหลักหลายหมื่นบาท โดย คาร์ซีท ราคา ยังมีขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ตามปัจจัยต่างๆ อีกด้วย
แล้วควรเลือกคาร์ซีทอย่างไรดีให้เหมาะสมกับราคาและงบประมาณที่คุณพ่อคุณแม่พึงพอใจ ก่อนอื่นเราอาจจะต้องรู้ก่อนว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อราคานั้นมีอะไรบ้าง ดังนี้
คาร์ซีท ราคา ถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
- คุณสมบัติของคาร์ซีท
- ความต้องการของตลาด
- ขนาดของคาร์ซีท
- ยี่ห้อและรุ่นของคาร์ซีท
- สภาพของคาร์ซีท
- ประวัติการใช้งาน (สินค้ามือหนึ่งหรือมือสอง)
- สีของคาร์ซีท
บทความก่อนหน้านี้ เราได้เคยทราบคุณสมบัติที่ดีของคาร์ซีทราคาต่าง ๆ กันมาบ้างแล้วเรามาดูปัจจัยในด้านอื่น ๆ กันดูบ้าง
2. ความต้องการของตลาด
แน่นอนว่าเรื่อง Demand & Supply เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาสินค้า คาร์ซีทก็เช่นกัน หากช่วงเวลานั้นตลาดมีความต้องการสูง คาร์ซีท ราคา ก็อาจจะสูงขึ้นแต่ถ้าตลาดมีความต้องการลดลง คาร์ซีท ราคา ก็จะถูกลงเช่นกัน
อะไรที่ส่งผลให้ตลาดมีความต้องการสูงขึ้น
อาจเกิดได้จากอัตราการเกิดของเด็กในช่วงเวลานั้น ๆ หากช่วงไหนเด็กเกิดน้อยลง ความต้องการของตลาดก็จะลดลงตามไปด้วยนั่นเอง
3. ขนาดของคาร์ซีท
คาร์ซีท ราคา ถูกหรือแพง ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของคาร์ซีทด้วย เพราะคาร์ซีทที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า ใช้วัสดุและการออกแบบที่มากกว่า และสามารถรองรับเด็กที่โตได้มากขึ้น นั่นทำให้โดยทั่วไปคาร์ซีทที่ขนาดใหญ่กว่าจะราคาแพงกว่า
4. ยี่ห้อและรุ่นของคาร์ซีท
แน่นอนว่าเรื่องแบรนด์ ก็ส่งผลต่อราคาของคาร์ซีทเช่นกัน ยี่ห้อหรือแบรนด์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยม มักจะราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป และในแบรนด์เดียวกันนั้น แต่ละรุ่นก็มีราคาที่แตกต่างกันอีกด้วย เพราะแต่ละรุ่นมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัย การปรับเบาะ เข็มขัดนิรภัยมีกี่จุด เป็นต้น ซึ่งรุ่นที่เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกตามความพึงพอใจได้เลย
5. สภาพของคาร์ซีท
คาร์ซีทที่มีลักษณะใหม่เอี่ยม สภาพดี ก็จะจำหน่ายราคาเต็ม ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่คาร์ซีทที่อาจจะตกรุ่นหน่อย อาจมีการจัดโปรโมชั่นลดราคา ทำให้ราคาถูกลง ซึ่งหลักการเลือกคาร์ซีทนั้น สามารถเลือกแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะทั้งซื้อตอนมีโปรโมชั่นหรือใหม่เอี่ยม แต่ต้องคำนึงเสมอว่าคาร์ซีทนั้นจะต้องสภาพ 100% คือไม่มีการชำรุดใด ๆ และวัสดุยังไม่เก่าเกินไปจนเสื่อมโทรม เพราะอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของลูกน้อยได้
6. ประวัติการใช้งาน (มือหนึ่งหรือมือสอง)
หลายคนมักมองหา คาร์ซีท ราคา ถูก ราคาประหยัด ด้วยการซื้อคาร์ซีทมือสอง ซึ่งไม่แนะนำเพราะคาร์ซีทอาจมีสภาพไม่ 100% ซึ่งอาจส่งผลให้ความปลอดภัยลดลงได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคาร์ซีทมือสองที่ซื้อมานั้น ยังมีฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้ปกติและไม่เก่าจนเกินไป มีการใช้งานมามากน้อยแค่ไหน อาจจะต้องตรวจสอบเป็นอย่างดี หรือซื้อจากคนใกล้ตัว คนที่เชื่อถือได้จะดีที่สุด
7. สีของคาร์ซีท
คาร์ซีท ราคา อาจสูงขึ้น หากเป็นสียอดนิยมหรือสีสันสวยงาม ถึงแม้ว่าเรื่องของสีนั้น จะไม่มีผลใด ๆ ต่อความปลอดภัยหรือมาตรฐานที่ดีของคาร์ซีท แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเรื่องของการออกแบบ ก็ส่งผลต่อราคาเช่นกัน ทั้งเรื่องสี รูปทรงแบบต่าง ๆ
และคาร์ซีทนั้นถูกออกแบบมาสำหรับเด็ก การที่มีสีสันสดใส ถูกใจลูก ๆ มากกว่า ก็จะช่วยให้เด็ก ๆ เอ็นจอยที่จะนั่งคาร์ซีทของตัวเองมากขึ้น รวมไปถึงเม็ดสีที่นำมาผลิต ก็ควรต้องมีความปลอดภัยสูงกับเด็ก ๆ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือเป็นอันตรายต่อผิวหนัง ของเด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน
นอกจากข้อที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว คาร์ซีท ราคา ขึ้นลง อาจยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ส่งผลได้อีกด้วย แต่โดยทั่วไปก็จะมีปัจจัยตามหลักการนี้ ดังนั้นพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่กำลังเริ่มมองหาคาร์ซีท หรือกำลังเปรียบเทียบรุ่นต่าง ๆ สามารถวิเคราะห์เรื่องราคาและความคุ้มค่าได้จากปัจจัยเหล่านี้ จะช่วยให้ตัดสินค้าง่ายขึ้น และเข้าใจในเรื่องราคาของคาร์ซีทมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
คาร์ซีท ราคา แบบไหน ถึงเรียกว่าแพง?
เมื่อรู้แล้วว่าคาร์ซีท ราคาขึ้นลงขึ้นอยู่กับอะไร แล้วแบบไหนล่ะที่เรียกว่าแพง (เกินไป) เพื่อที่จะทำให้ไม่ต้องเสียเงินโดยไม่คุ้มค่า
โดยทั่วไปคาร์ซีทราคาอยู่ที่ 1,xxx บาท – จนถึงหลักหมื่นบาทขึ้นไป คาร์ซีทที่อาจเรียกได้ว่าแพงเกินไป คือราคาอาจจะสูง แต่ฟังก์ชั่นน้อย หรือสภาพดูไม่แข็งแรงเทียบเท่ากับเงินที่จ่ายไป เช่น ปรับเบาะได้น้อย ไม่ยืดหยุ่น ผลิตจากพลาสติกที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เป็นต้น หรือมีเข็มขัด จุดล็อคนิรภัยไม่ครบถ้วน คาร์ซีทที่ปลอดภัย ควรจะมีเข็มขัดนิรภัยมากกว่า 3 จุดขึ้นไป บางรุ่นอาจมีถึง 5-7 จุดเลยทีเดียว
คุณพ่อคุณแม่สามารถศึกษาวิธีการเลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองและเหมาะสมกับวัยและพฤติกรรมของลูกน้อยเพิ่มเติมได้ เพราะความปลอดภัยของลูกน้อยคือเรื่องสำคัญอันดับแรกและซื้อครั้งเดียว จะต้องใช้ยาว ๆ ไปอีกหลายปีหรือจนกว่าลูกจะโตมากกว่า 6 ขวบขึ้นไปเลยทีเดียว ดังนั้นจึงต้องรอบคอบกับการเลือกซื้อเพื่อให้ได้คาร์ซีทราคาที่เหมาะสมและได้คาร์ซีทที่ดีที่สุดนั่นเอง