DATE
17.09.2021
การผ่าคลอด เป็นหนึ่งในทางเลือกของการทำคลอดที่คุณแม่หลาย ๆ คนเลือกใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคุณแม่ที่ต้องการเลือกวันและเวลาให้กำเนิดลูกน้อย กลัวความเจ็บปวด มีความกังวลเกี่ยวกับสรีระร่างกายบริเวณเชิงกราน หรือมีความจำเป็นด้านอื่น ๆ ที่แพทย์พิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ แน่นอนว่าการผ่าคลอดแม้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณแม่ได้มาก แต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้เกิดบาดแผลบนร่างกายที่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นและดูแลรักษามากเป็นพิเศษ ซึ่งหากดูแลได้ไม่ดีก็อาจเกิดการอักเสบและติดเชื้อรุนแรงได้ค่ะ
ในบทความนี้ Baby Hills Thailand จะมาพูดถึง ทิปส์การดูแลแผลผ่าคลอดลดแผลเป็น และการดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด มาฝากคุณแม่ทุกท่านกันค่ะ
ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด ทำยังไงได้บ้าง ?
หลังจากผ่าคลอดเสร็จแล้ว คุณแม่อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล 3-4 วัน และจะต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองในกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอจะทำได้ให้มากที่สุด เพื่อเร่งให้แผลสมานเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันต้องระมัดระวังอาการหน้ามืด เป็นลม เนื่องจากเสียเลือดในขณะทำคลอดมากกว่าปกติ โดยสิ่งที่คุณแม่ควรทำมีดังนี้
• เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการพลิกตัว ลุกขึ้นนั่ง หรือเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการท้องอืด พังผืดในช่องท้อง และทำให้ลำไส้กลับมาทำงานได้เป็นปกติ หากยังเจ็บแผลผ่าคลอด อาจใช้ผ้ารัดหน้าท้องพยุงกล้ามเนื้อส่วนหลังขณะเดิน หรือแจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อให้จ่ายยาระงับปวด
• ดูแลแผลไม่ให้แผลสัมผัสกับน้ำ
บริเวณแผลผ่าตัดนั้นควรที่จะแห้งและสะอาดที่สุด คุณแม่ควรทำความสะอาดตัวด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด และเช็ดตัวให้แห้งสนิทด้วยผ้าสะอาด โดยที่ 7 วันแรกต้องระวังไม่ให้แผลสัมผัสกับน้ำ ให้คอยสังเกตอาการตัวเองและแผลด้วยเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อเกิดขึ้นไหม เช่น มีไข้ แผลบวมแดง มีตุ่มน้ำ และอาการอักเสบ ต้องรีบพบแพทย์ ในระหว่างที่แผลยังไม่แห้ง สวมเสื้อผ้าขนาดพอดีตัว ไม่ควรสวมชุดรัดรูป เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณแผลได้
• พักผ่อนให้มากที่สุด
การผ่าตัดคลอดลูกนับเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงต้องให้เวลากับร่างกายในการเยียวยาตัวเอง คุณแม่ควรพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อให้แผลหายไว ควรมีการปรับท่านอนให้หมอนอยู่สูงกว่าปกติ เพื่อไม่ให้รู้สึกตึงแผล นอกจากการอุ้มลูกและเดินเบาๆ เพื่อยืดเส้นยืดสายบ้างแล้ว ทางที่ดีคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันไดหรือทำงานบ้านที่มากเกินไป ไม่ควรทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะ ๆ เช่น ยกของหนัก หรือเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณท้อง เพราะอาจทำให้แผลยิ่งหายช้าขึ้นอีก
• ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และทานยาตามแพทย์สั่ง
ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นทานโปรตีนในขนาดที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ นม ไข่ และถั่วเมล็ดแห้ง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอจากการผ่าคลอด ทานยาที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะที่ต้องทานให้ครบกำหนด และไม่ควรหยุดยาเอง เมื่อต้องให้นมลูกอาจจะต้องระวังว่าเรากำลังกินยาอะไรอยู่และจะมีผลกับการให้นมไหม จึงต้องกินยาตามแพทย์เห็นควรและเป็นคนสั่งจ่ายยาเท่านั้น
• ใช้เป้อุ้มเด็กเป็นตัวช่วยในการอุ้มลูก
เป้อุ้มเด็กนั้นมีหลายแบบด้วยกัน แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกมาแล้วว่าเหมาะกับคุณแม่หลังผ่าคลอด ก็คือ HARMAS Hipseat Carrier ที่ออกแบบตามสรีรศาสตร์ ใช้ Memory Form อ่อนนุ่ม ช่วยให้ช่วงสะโพกของลูกแนบชิดกับพ่อแม่ได้ดียิ่งขึ้น ใช้วัสดุยูรีเทนในการลดการกระแทกกดทับแผลผ่าตัดของคุณแม่ได้ดี แน่นอนว่าเป้แบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาดก็มีเลือกมากมาย ในแบบที่ราคาประหยัดกว่าก็อาจจะใช้ได้เช่นกัน แต่ก็อาจจะต้องแลกกับระยะการใช้งานที่สั้นลง เนื่องด้วยไม่มีวัสดุที่คอยพยุง ทำให้เมื่อลูกโตขึ้นก็อาจจะต้องเปลี่ยนเป้อุ้มใหม่
READ ALSO: เลือกเป้อุ้มเด็กแบบไหนดี และต้องเลือกยี่ห้อไหน?
ทิปส์ในการดูแลแผลผ่าคลอด เพื่อลดแผลเป็น
เมื่อแผลแห้งสนิทแล้ว สิ่งที่คุณแม่หลาย ๆ คนรู้สึกกังวลคือ รอยแผลเป็น และคีลอยด์ ซึ่งการดูแลแผลผ่าคลอด และป้องกันการเกิดแผลเป็นนั้น สามารถทำได้โดยการนวดกระตุ้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์หรือโลชั่นเบา ๆ เพื่อให้แผลนุ่มขึ้น
หากเกิดแผลเป็นนูนแล้ว ก็สามารถรักษาได้ด้วยวิธีผ่าตัด เลเซอร์ หรือฉีดยาสเตียรอยด์ ซึ่งจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมตกแต่งหรือแพทย์ผิวหนัง
แผลผ่าคลอด ใช้เวลากี่วันจึงจะหาย?
คุณแม่ที่ใช้วิธีผ่าคลอดจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกายนานกว่าการคลอดแบบธรรมชาติ เนื่องจากบาดแผลหลังคลอดที่ถูกเย็บปิดสนิทจะต้องใช้การดูแลและใส่ใจมากเป็นพิเศษ โดยที่ร่างกายของคุณแม่แต่ละคนจะใช้เวลาสมานบาดแผลที่แตกต่างกัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 35-45 วัน หรือประมาณ 6-8 สัปดาห์กว่าแผลจะหายสนิท และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้นั่นเองค่ะ
READ ALSO: คู่มือเตรียมของไปคลอด คุณมือใหม่เตรียมกระเป๋าไปโรงพยาบาลต้องอ่าน!