พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม “วิตามินดี” วิตามินที่ดีกับลูกรักตัวน้อย

เด็ก ขาด วิตามินดี 1 scaled 1

DATE
26.05.2022

เด็ก ขาด วิตามินดี 1 scaled 1

มารู้จักกับภาวะขาดวิตามินดีภัยเงียบที่พ่อแม่มองข้าม และวิธีเสริมวิตามินดีให้ลูกน้อยแบบธรรมชาติ เสริมสร้างการเจริญเติบโตให้ลูกน้องแข็งแรง

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม “วิตามินดี” วิตามินตัวสำคัญที่จะช่วยทำให้ลูกน้อยของคุณแข็งแรง ห่างไกลจากโรคกระดูกอ่อนในเด็ก ฟันผุขั้นรุนแรงหรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ หลักๆ แล้วมีวิตามินสองชนิดด้วยกันที่ควรได้รับก็คือ วิตามินดี 2 และวิตามินดี 3 ซึ่งวิธีที่จะได้รับก็แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามการได้รับวิตามินมากเกินหรือน้อยเกินไปก็ไม่เป็นผลดี วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับภาวะขาดวิตามินดีกัน

ภาวะขาดวิตามินดีคืออะไร?

ภาวะขาดวิตามินดีคือการที่ได้รับวิตามินดีน้อยเกินกว่าจำนวนที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน แม้จะไม่ได้มีการวินิจฉัยชัดเจน แต่ก็สามารถสังเกตได้จากอาการผิดปกติต่างๆ สามารถพบได้ทุกวัย สำหรับเด็กแรกเกิดนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะขาดวิตามินดีเนื่องจากการดื่มเพียงน้ำนมมารดานั้นมีวิตามินดีไม่เพียงพอ แพทย์จะเป็นผู้ช่วยประเมินและช่วยเพิ่มวิตามินดีด้วยวิธีอื่นๆ สำหรับเด็กเล็กที่เริ่มโตจนถึงวัยเรียนก็จะได้รับวิตามินดีจากสารอาหารหรือแสงแดดยามเช้าเพิ่มเข้ามา ช่วยให้ห่างไกลจากภาวะดังกล่าว โดยแต่ละวัยมีปริมาณที่ต้องการวิตามินดีที่แตกต่างกันดังนี้ 

  • เด็กทารกควรได้รับวิตามินดีที่ 200 IU ต่อวัน
  • เด็กที่เริ่มหย่านมแล้วควรได้รับวิตามินดีที่ 500 IU ต่อวัน
  • เด็กโตควรได้รับอย่างน้อย 500 IU ต่อวันแต่ก็ไม่ควรมากกว่า 2,000 IU ต่อวันเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

สำหรับเด็กที่มีภาวะขาดวิตามินดีก็จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระดูกอ่อนไม่แข็งแรง กะโหลกนิ่มถูกกระทบแล้วบุบง่าย รวมถึงปัญหาที่ฟันก็เป็นสิ่งที่พบเจอได้เช่นกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันผู้ปกครองจึงต้องใส่ใจในส่วนของการควบคุมวิตามินดีให้พอเหมาะด้วย

รวมวิธีเสริมวิตามินดีให้ลูกน้อย

rainier ridao TCYj UxoIUY unsplash

1. วิตามินเสริมอาหาร

วิตามินดีเสริมอาหารเหมาะสำหรับทารกที่ดื่มนมแม่เท่านั้น เนื่องจากในน้ำนมแม่มีวิตามินดีไม่เพียงพอต่อความต้องการของทารก ส่วนใหญ่วิตามินเสริมจะถูกจัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย สำหรับลูกน้อยที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะในนมสูตรต่างๆ จะมีการเพิ่มวิตามินดีในปริมาณที่พอเหมาะเรียบร้อย

tanaphong toochinda FEhFnQdLYyM unsplash

2. เลือกทานอาหารที่มีวิตามินดี

การกินยังคงเป็นส่วนสำคัญในการนำวิตามินดีเข้าสู่ร่างกาย หากลูกของคุณโตขึ้นการดูแลเรื่องอาหารก็จำเป็นมากกว่าเดิม ควรเพิ่มอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีนและไข่แดงซึ่งเป็นวิตามินดีจากธรรมชาติ 

sue zeng 8SwpPqFeoR4 unsplash

3. เดินเล่นยามเช้า

ปิดท้ายด้วยวิธีที่คุณสามารถทำได้กับลูกน้อยทุกวัยนั่นก็คือการพาไปเดินเล่นยามเช้าหรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งช่วงเช้านั่นเอง แสงแดดตอนเช้าจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายผลิตวิตามินดีที่ดี อย่างไรก็ตามการพาลูกโดนแดดนั้นควรเป็นระยะเวลาสั้นๆ และเป็นแดดช่วงเช้าเท่านั้น จะอุ้มเล็กเดินเล่นรับแดดบริเวณบ้าน หรือจะพาลูกนั่งรถเข็นเด็กไป Jogging รอบหมู่บ้านก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน

winning hover B

รถเข็นเด็กรุ่น Cosmopolitan Mocha เหมาะสำหรับการพาลูกน้อยไปเดินเล่น พับได้ เคลื่อนไหวคล่องตัว ล็อคล้อได้ด้วยเท้า

จะเห็นได้ว่าการกินและการพาทำกิจกรรมคือวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถพาลูกน้อยทำได้ทุกวัน บอกเลยว่าทำตามนี้ลูกรักไม่มีทางขาดวิตามินดีอย่างแน่นอน และเพื่อความปลอดภัยของลูกๆ เมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องห้ามละเลยเรื่องอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยด้วย หากต้องอุ้มลูกน้อยเป็นระยะเวลานาน พ่อแม่อาจต้องใช้เครื่องทุ่นแรงอย่างเป้อุ้มเด็กเข้าช่วย 

ลองอ่านเกี่ยวกับวิธีการเลือกเป้อุ้มเด็กที่เหมาะสมได้ที่บทความนี้ หรือลองอ่านเกี่ยวกับวิธีเลือกรถเข็นเด็กได้ที่บทความนี้เช่นกัน

Baby Hills Thailand เองตระหนักและใส่ใจถึงเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้านำเข้าของเรามาเป็นอันดับหนึ่ง เราเป็นตัวแทนจำหน่ายเฉพาะแบรนด์ที่เราไว้ใจ ศึกษามาแล้วว่าได้มาตรฐานแน่นอนอย่าง HARMAS และ Mountain Buggy ที่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงลูกโตจนสามารถอุ้มแบบนั่งหันหน้าออกได้ คลิกเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ HARMAS และผลิตภัณฑ์จาก Mountain Buggy

Leave a Reply