เลือก Car Seat อย่างไร ให้เหมาะกับลูกและรถ

คาร์ซีท Car seat 24 1

DATE
14.06.2023

S 83976240

คาร์ซีท (Car Seat) หรือเบาะนั่งนิรภัย เป็นอุปกรณ์ในการเดินทางด้วยรถยนต์ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ลูกน้อย ทั้งยังเป็นกฎหมายข้อบังคับที่กำหนดให้ผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุ ไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายขณะเดินทาง วันนี้เราอยากให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจถึงวิธีเลือก Car Seat เหมาะกับลูกและรถของตัวเอง เพื่อให้ได้คาร์ซีทที่ดีกับลูกน้อยมากที่สุด

เลือก Car Seat มือหนึ่งเท่านั้น

คาร์ซีทก็เหมือนกับสิ่งของเครื่องใช้ทั่วไปที่มีอายุการใช้งาน นั่นหมายถึงเพียง 6 ปีเท่านั้นจากนั้นวัสดุและโครงสร้างจะเริ่มเสื่อมสภาพจนประสิทธิภาพความปลอดภัยลดน้อยลงไป ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรลงทุนเลือก Car Seat มือหนึ่งไปเลยจะคุ้มค่าที่สุด เพราะถ้าใช้คาร์ซีทมือสองใช้งานได้อีกแค่ 1 – 2 ปี ก็ต้องซื้อใหม่อยู่ดี หรืออาจจะเป็นคาร์ซีทที่เคยอุบัติเหตุมาแล้วก็ได้

เลือก Car Seat ที่มีป้ายรับรองมาตรฐาน

คาร์ซีทที่ได้รับรองมาตรฐานสากลย่อมเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีเพิ่มความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเรื่องอันดับต้น ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ โดยเลือก Car Seat ที่มีป้ายรับรองมาตรฐานดังนี้

  • UNr 129 หมายถึง คาร์ซีทได้รับการทดสอบแล้วว่าผ่านมาตรฐานการป้องกันการกระแทก จากด้านข้าง
  • ECE R44 หมายถึง คาร์ซีทได้รับการทดสอบแล้วว่าผ่านมาตรฐานการป้องกันการกระแทกจากด้านหน้าและด้านหลังของตัวคาร์ซีทแล้ว เป็นมาตรฐานสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรป
  • FMVSS (Federal Motor Vehicle Safety Standard 213 Child Restraint Systems) เป็นมาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกา หมายถึง คาร์ซีทได้รับการทดสอบแล้วว่าผ่านมาตรฐานของรัฐบาลกลาง โดยมีข้อกำหนดว่าทดสอบคาร์ซีทแบบ Frontal Sled Test เพื่อจำลอง
    การชนนั่นเอง

เลือก Car Seat ให้เหมาะสมกับช่วงอายุและส่วนสูง

คาร์ซีทที่จำหน่ายในท้องตลาดมีหลากหลายประเภทตามรูปแบบการใช้งาน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ ควรพิถีพิถันในการเลือก Car Seat ให้เหมาะสมกับช่วงอายุและส่วนสูงของลูกน้อยด้วยเช่นกัน

  1. คาร์ซีทแบบ Rearward-facing baby seat เป็นลักษณะหันหน้าไปทางเบาะหรือหันหลัง ให้กับด้านหน้าของรถ ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี เนื่องจากเด็กช่วงวัยนี้กระดูกต้นคอยังไม่แข็งแรง ทำให้คาร์ซีทต้องช่วยลดแรงกระแทกเมื่อรถเบรกกระทันหัน
  2. คาร์ซีทแบบ Forward-facing child seat เป็นลักษณะหันหน้าไปทางหน้ารถ เหมาะสำหรับเด็กช่วงวัย 2 – 5 ปี แต่ยังควรเลือกให้เหมาะกับส่วนสูงของลูกด้วยเช่นกัน
  3. คาร์ซีทแบบ Combination Seat เป็นลักษณะที่หันหน้าได้ทั้งแบบเข้าหาเบาะและหันหน้า ไปทางรถ เหมาะสำหรับเด็กช่วงอายุ 2 – 5 ปี ซึ่งมีข้อดีตรงที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับลูกน้อยยังเล็กก็หันหน้าไปทางเบาะ เมื่อโตขึ้นค่อยหันไปทางหน้ารถ แต่ถ้าส่วนสูงไม่เหมาะกับเบาะแล้วก็ควรเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัย
  4. คาร์ซีทแบบ High-backed Booster Seat เป็นคาร์ซีทที่เหมาะสำหรับเด็ก 5 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 25 กิโลกรัม ช่วยให้เด็กนั่งสบายมากขึ้นและฝึกปรับตัวเพื่อนั่งเบาะธรรมดากับเข็มขัดนิรภัย

เลือก Car Seat ที่มีระบบเข็มขัดนิรภัยรัด 5 จุด

โดยปกติคาร์ซีททั่วไปจะใช้ระบบเข็มขัดนิรภัยรัด 3 จุด หรือใช้สายคาดธรรมดา แม้ว่าจะได้มาตรฐานความปลอดภัย แต่เพื่อความมั่นใจก็เลือก Car Seat ที่มีระบบเข็มขัดนิรภัยรัด 5 จุด ซึ่งรัดตรงช่วงไหล่ เอว และหว่างขาได้อย่างแน่นหนาดีที่สุด

เลือก Car Seat ที่ป้องกันกระแทกด้านข้าง

คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มากถึง 25 – 30% เกิดจากทางด้านข้าง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราควรเลือก Car Seat ที่สามารถป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้างได้ด้วย เพื่อช่วยป้องกันและเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุมจากทุกทิศทาง

เลือก Car Seat ที่ทำความสะอาดทุกชิ้นส่วนได้ง่าย

เพราะเด็กเล็ก ๆ คือวัยกำลังซนที่อาจจะทำให้เบาะของคาร์ซีทเปื้อนเลอะเทอะได้ ดังนั้นควรเลือก Car Seat ที่ใช้เบาะกันน้ำหรือถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนวิธีการถอดและประกอบให้สอบถามกับผู้จัดจำหน่าย ซึ่งมั่นใจได้ว่าไม่เกินความสามารถของคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่นอนค่ะ

S 83976239

เลือก Car Seat ที่ติดตั้งง่าย

การติดตั้งคาร์ซีทฟังดูเหมือนมีขั้นตอนซับซ้อนยุ่งยาก แต่สำหรับคาร์ซีทแบบ ISOFIX จะช่วยให้การติดตั้งสะดวกรวดเร็วมาก ๆ ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ก็รองรับคาร์ซีทแบบนี้ทั้งนั้น เพียงแค่นำตัว Connectors เชื่อมกับตัว ISOFIX ที่รถยนต์ พอเสียบเข้าด้วยกันตรงจุดก็เสร็จเรียบร้อย

เลือก Car Seat ที่ใช้งานได้ระยะยาว

คาร์ซีทที่มีคุณภาพดีไม่ใช่หมายถึงแค่เรื่องความปลอดภัยอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงการใช้งานได้ระยะยาว สามารถปรับระดับตรงที่วางขาให้เข้ากับแต่ละช่วงวัยของลูกน้อยได้ เนื่องจากเด็กเล็กมักจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วนั่นเอ

ติดตั้ง Car Seat ที่เบาะหลัง

เรามักจะเห็นคุณพ่อคุณแม่ติดตั้ง Car Seat ที่เบาะหน้าข้างคนขับ เพื่อให้สะดวกต่อการดูแลลูกน้อย แต่อย่าลืมว่ารถยนต์หลาย ๆ รุ่นมี Airbag ติดตั้งอยู่ ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ Airbag จะเป็นอันตรายต่อเด็กที่นั่งคาร์ซีทได้ จึงควรติดตั้ง Car Seat ไว้ที่เบาะหลังจะดีที่สุด

คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกน้อยหัดนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อสร้างความคุ้นชิน เพราะความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุดของการเดินทาง ดังนั้นเลือก Car Seat แบบไหนให้เหมาะกับลูกและรถของเรา ลองนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้กันนะคะ

Leave a Reply