ประสบการณ์ของแอดมิน เจ้าตัวน้อยและ CAR SEAT คาร์ซีท ตอนที่ 2

DATE
09.08.2018

หลังจากเราพึงพอใจกับกระเช้าในรถมากๆแล้ว เราก็เริ่มหาข้อมูลและก็พบว่ามันมีหลายแบบมากซึ่งก็แอบทำให้เราสับสนได้เหมือนกัน จนถึงวันนี้แล้วก็ขอสรุปง่ายๆ เป็นวิธีในการเลือกซื้อคาร์ซีท ละกันนะคะ- เอาให้นั่งได้ตั้งแต่ แรกเกิดไปเลย รุ่นดีหน่อยก็จะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 5 หรือ 7 ขวบ ดังนั้นในความคิดเห็นเรา ถ้าเอาแบบระยะยาวหน่อยก็เป็นรุ่นกลางถึงใหญ่เลย เพราะว่าถ้าเป็นรุ่นกระเช้า พอน้องอายุประมาณ 1 ขวบก็ต้องเปลี่ยนรุ่นอีกอยู่ดี

– เอาแบบเอนได้บ้างนิดหน่อยก็ยังดี เพราะว่าเราซื้อคาร์ซีทมา 2 อันไว้ในรถอีกคัน แต่ปัญหาที่เจอก็อีกอันมันปรับเอนไม่ได้เลย ปรากฏว่าเวลาลูกนอน คอเค้าพับมาด้านหน้า เราเคยไปหาหมอนรูปตัวยู ทรงยาวๆหน่อยมาติดตรงคอ แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะว่าคอน้องก็ยื่นออกมาพับได้อยู่ดีคะ ตอนนั้นขับรถอยู่จะหันกลับไปจับก็อันตรายแต่บางรุ่นเค้าอาจจะมีแบบปรับนอนเกือบราบได้เลย อันนี้จะเหมาะกับเด็กแรกเกิดมากๆ เพราะว่าเค้ายังชันคอไม่ได้ ข้อนี้เราขอเน้นนะคะ ว่าสมควรอย่างยิ่ง

– หันหน้าออกได้ไหม อันนี้สำคัญเพราะว่าพอน้องเริ่มอายุประมาณ 1 ขวบขึ้นไปแล้ว เค้าต้องไม่ยอมหันหน้าเข้าเบาะแน่ๆ เพราะว่าเค้าอยากมองวิวด้านหน้าบ้าง ถ้าเบาะหันหน้าออกไม่ได้เค้าก็จะเริ่มงอแง ทำให้เราไม่สบายใจแล้วก็ต้องจอดรถค่า ดังนั้นคาร์ซีทที่ราคาสูงหน่อยก็จะออกแบบมาให้หันหน้าออกได้ คำเตือนนะคะ ไม่สมควรอย่างยิ่งให้เด็กหันหน้าออกถ้าคาร์ซีทไม่ได้ออกแบบมาเพื่อหันหน้าออกนะคะ

– ความปลอดภัยก็ต้องดูส่วนศรีษะว่ามีระบบความปลอดภัยอย่างไร ช่วงลำตัวต้องดูสายรัดเข็มขัดเป็นหลักขอให้มีคุณภาพและแน่นหนาพอสมควร อย่างน้อยก็ต้องสามารถพยุงตัวเด็กไม่ให้กระเด็นออกไปส่วนอื่นของรถเพราะว่าที่อันตรายก็คือเด็กกระเด็นไปกระแทกของแข็งที่อยู่ในรถและทำให้เกิดภาวะ baby shaken syndom- ผ้าจะไม่ต้องไม่อบนะคะ เพราะว่าเมืองไทย เมืองร้อนะคะ ถ้าอับหรืออบเมื่อไหร่จบกันคะ ลูกน้อยโยเยแน่นอนคะ

– นอกเหนือจากนี้ส่วนใหญ่จะเป็นออบชั่นเพิ่มเติมของคาร์ซีทแต่ละยี่ห้อแล้วละคะ ก่อนซื้อหรือใช้งานแนะนำให้อ่านคู่มือและวิธีการใช้อย่างละเอียดด้วยนะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *