คาร์ซีทมีกี่แบบ ข้อดี-ข้อเสียของคาร์ซีทแต่ละแบบ

DATE
15.08.2022

อุปกรณ์จำเป็นสำหรับลูกน้อยเวลาเดินทางด้วยรถยนต์ หากพูดถึงความปลอดภัย จะต้องนึกถึงคาร์ซีทอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเด็กทารกแรกเกิดที่มีร่างกายบอบบางเป็นพิเศษ รวมถึงเด็กเล็ก ๆ ที่ยังไม่เหมาะกับการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นวิธีเลือกซื้อคาร์ซีทจึงต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับประเภทและการใช้งานของลูกมากที่สุด เพื่อช่วยปกป้องลูกให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด

  1. คาร์ซีท Newborn Only หรือที่เรียกกันว่า “คาร์ซีทแบบกระเช้า” ซึ่งมีใช้กันมานานแล้ว ลักษณะรูปทรงจะคล้ายกับกระเช้าขนาดเล็กที่สามารถวางไว้ในรถได้ บางรุ่นก็นำไปปรับใช้กับรถเข็นเด็กได้เช่นกัน โดยใช้งานได้ตั้งแต่เด็กทารกวัยแรกเกิด – 18 เดือน เหมาะกับการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์

ข้อดี

  • น้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายง่าย สามารถถอดออกมาเดินถือขณะลูกหลับได้โดยไม่ต้องอุ้มออกมาจากคาร์ซีท
  • มีฟังก์ชันบางอย่าง บางรุ่นสามารถปรับการใช้งานกับรถเข็นเด็กได้สะดวก หรือปรับเป็นเปลนอนได้อีกด้วย
  • มีความปลอดภัยสูง เหมาะกับการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ เพราะเป็นท่านั่งที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กทารกแรกเกิด

ข้อเสีย

  • โครงสร้างบอบบาง ด้วยขนาดที่เล็กและมีน้ำหนักเบากว่าคาร์ซีทประเภทอื่น ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ มีขนาดเล็กและบอบบางด้วยเช่นกัน
  • ระยะเวลาใช้งานสั้น โดยปกติคาร์ซีทจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าสามารถใช้งานได้จนถึงอายุ 18 เดือน แต่เพราะโครงสร้างกับวัสดุที่มีขนาดเล็กและบอบบาง จึงทำให้ใช้งานได้จริงกับเด็กอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เนื่องจากเด็กวัยนี้เจริญเติบโตเร็วจนทำให้การนั่งในคาร์ซีทแบบนี้รู้สึกอึดอัด
  1. คาร์ซีทแบบ Convertible เป็นคาร์ซีทที่สามารถใช้งานกับเด็กได้หลากหลายช่วงอายุตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโต มีขนาดใหญ่กว่าคาร์ซีทแบบกระเช้าหรือ Newborn Only และยังได้รับความนิยมมาก เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลายและสะดวกต่อการใช้งานนั่นเอง นอกจากนี้ยังแบ่งประเภทย่อย ๆ ได้อีก 3 ประเภทดังนี้

          2.1 คาร์ซีทแบบหมุนได้ เป็นคาร์ซีทที่มีลักษณะปรับหมุนได้แบบ 360 องศา เพียงแค่ติดตั้งครั้งเดียวก็สามารถปรับการใช้งานได้ทั้งแบบการหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และแบบการหันหน้าไปทางหน้ารถ (Forward-Facing) ทำให้สะดวกต่อการใช้งานตั้งแต่การปรับหันมาเล่นหรือพูดคุยกับลูกสร้างความอบอุ่นใกล้ชิดได้ง่าย ป้อนนมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมก็สะดวก อุ้มลูกขึ้นลงจากรถได้อย่างปลอดภัย สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าศีรษะของลูกจะชนกับขอบประตูด้านบนหรือไม่ 2.2 คาร์ซีทแบบหมุนไม่ได้ เป็นคาร์ซีทที่มีลักษณะต้องติดตั้งใหม่ทุกครั้งเมื่อต้องการให้นั่งหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) หรือเปลี่ยนเป็นการนั่งหันหน้าไปทางรถ (Forward-Facing) เพราะไม่มีฟังก์ชันการหมุนแบบ 360 องศา ข้อดี

  • อายุการใช้งานยาวนาน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องเปลี่ยนคาร์ซีทบ่อย ๆ
  • โครงสร้างแข็งแรง มีขนาดโครงสร้างใหญ่และตัวเบาะกว้าง จึงมีปริมาณวัสดุรองรับแรงกระแทกมากกว่า วัสดุภายในมีหลายชิ้นและแข็งแรงจึงมีความปลอดภัยสูง
  • ฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย โดยเฉพาะฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกน้อย เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจแก่คุณพ่อคุณแม่มากขึ้น

ข้อเสีย

  • โครงสร้างขนาดใหญ่ ทำให้คาร์ซีทมีน้ำหนักมากและต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง รวมถึงขั้นตอนการติดตั้งที่ซับซ้อนกว่าแบบอื่น
  • เคลื่อนย้ายไม่ได้ ไม่สามารถถือออกจากรถเหมือนกับคาร์ซีทแบบกระเช้าหรือ New Born Only ได้

คาร์ซีทสำหรับเด็กโต

  1. คาร์ซีทแบบ Forward facing / Combination Seat เหมาะสำหรับเป็นคาร์ซีทตัวที่สองให้กับลูกน้อย เมื่อสามารถนั่งชันหลังได้อย่างแข็งแรงเพราะมีพนักพิงหลัง ส่วนใหญ่จะใช้กับเด็กโตที่มีอายุตั้งแต่ 4 – 12 ปี โดยมีลักษณะตัวเบาะกว้างนั่งสบาย พนักพิงสูงและขนาดใหญ่ แต่บางรุ่นก็สามารถใช้กับเด็กเล็ก ๆ ตั้งแต่อายุ 9 เดือนขึ้นไป

ข้อดี

  • โครงสร้างขนาดใหญ่ ขนาดเบาะที่กว้างทำให้ลูกนั่งได้สบาย รู้สึกไม่อึดอัด ซึ่งรองรับการเจริญเติบโตของเด็กตามวัยได้เป็นอย่างดี
  • วัสดุภายในแข็งแรง โดยเฉพาะวัสดุที่ช่วยรองรับแรงกระแทกมีความแข็งแรงมาก ทำให้ปกป้องลูกน้อยได้อย่างปลอดภัย

ข้อเสีย

  • ปรับพนักพิงไม่ได้ คาร์ซีทบางรุ่นไม่สามารถปรับพนักพิงเพื่อเอนนอนได้ ส่งผลให้ลูกน้อยนอนหลับไม่ค่อยสบายตัว
  1. คาร์ซีทแบบ Booster Seat มีลักษณะเหมือนกับคาร์ซีทแบบ Forward facing / Combination Seat แต่จะแตกต่างกันตรงที่ไม่มีพนักพิงหลัง และไม่มีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากเท่าคาร์ซีทแบบอื่น ๆ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปที่สามารถนั่งชันหลังอย่างแข็งแรงได้ รวมถึงการเดินทางระยะใกล้ ๆ ที่ไม่ต้องใช้เวลานาน

ข้อดี

  • น้ำหนักเบา สามารถพกพาได้สะดวกหรือเดินทางไปต่างประเทศก็ง่าย

ข้อเสีย

  • ไม่มีพนักพิงหลัง เด็กไม่สามารถนั่งพิงหลับได้ เพราะไม่มีพนักพิงที่ช่วยประคองหลัง
  • วัสดุบอบบาง วัสดุที่ใช้รองรับแรงกระแทกมีความบอบบางกว่าคาร์ซีทแบบ Forward-Facing
  • เหมาะสำหรับเด็กอายุ 7 ปีขึ้นไป หากใช้กับเด็กที่อายุน้อยกว่านี้ก็อาจจะปกป้องได้ไม่ดีเท่าไร
  • ข้อจำกัดเรื่องสายเข็มขัด ถ้าไม่มีตัวปรับสายเข็มขัด อาจส่งผลให้เข็มขัดนิรภัยพาดที่หน้าหรือคอของเด็กแทน

  ในท้องตลาดบ้านเรามีคาร์ซีทให้เลือกมากมายหลายแบบหลายรุ่น ซึ่งแบ่งตามลักษณะการใช้งาน อายุ และน้ำหนักของเด็ก คุณพ่อคุณแม่จึงควรพิจารณาเลือกแบบที่เหมาะสมกับลูกน้อย เพื่อการปกป้องและเพิ่มความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ นั่งสบาย ทำให้การเดินทางเป็นช่วงเวลาที่พิเศษของลูกนั่นเอง

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ คาร์ซีท ราคา สูงช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยได้จริงหรือ

คาร์ซีท ราคา แพงอาจจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนต้องหยุดชะงักก่อนการตัดสินใจในการซื้อความปลอดภัยให้กับลูกน้อยบุตรหลาน ซึ่งในตอนนี้กฎหมายทางด้านการโดยสารของเด็กที่มีอายุน้อยในปัจจุบันของประเทศไทยกำลังเริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งเรียกได้ว่าส่งผลในวงกว้างทางด้านความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตามกฎหมายนี้ก็ยังสร้างความกังขาและข้อสงสัยให้กับคุณพ่อคุณแม่คนไทย ทางด้านรูปแบบการใช้งาน
และราคารวมไปถึงคุณภาพของสินค้าว่าควรจะซื้อรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมกับการใช้งานรวมไปถึงความคุ้มค่าของระยะเวลาในการใช้อันนี้เป็นคำถามที่เรียกได้ว่าบนโลกออนไลน์มีข้อมูลโดยรวมที่น้อยมาก โดยเฉพาะการใช้งานที่เหมาะสมในประเทศโซนเขตร้อนนี้เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่มีคุณภาพเอามาไว้รวมกันที่นี่ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนได้นำไปประกอบการตัดสินใจก่อนการเลือกซื้อนำมาใช้งาน รับประกันได้เลยว่ามีประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว

คาร์ซีท ราคา ที่เหมาะสมกับคุณภาพเป็นอย่างไร 

สิ่งที่เรียกว่าคุณภาพที่สมเหตุสมผลกับราคานั้น น่าจะใช้คำนิยามเดียวกันกับการเลือกซื้อคาร์ซีท ในราคาที่สมเหตุสมผลได้เช่นเดียวกัน  ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่หรือผู้ปกครองประมาณ 80% ก็คงจะหาข้อมูลเช่นเดียวกันว่าคาร์ซีทที่ดีมีคุณภาพนั้นควรจะเป็นรูปแบบใด จึงจะเหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบันเราจึงได้นำหัวข้อในการค้นหาบนโลกออนไลน์นั้นมาตอบโจทย์ทุกคน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหลักการใหญ่เลยก็ว่าได้ในการเลือกซื้ออย่างเหมาะสมสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ 

ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ คาร์ซีท

  • คุณภาพของคาร์ซีทจะขึ้นอยู่กับการออกแบบความปลอดภัย ซึ่งจะต้องเป็นราคาที่เหมาะสมกับการจ่ายและยอดเงินโดยรวม
  • วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้มีโครงสร้างที่แข็งแรงแค่ไหนและโครงสร้างผลิตมาจากอะไรสิ่งเหล่านี้คุณควรทำความเข้าใจในแต่ละรุ่นและแต่ละยี่ห้อโดยตรง
  • คุณภาพของวัสดุอุปกรณ์คาร์ซีทที่ปลอดภัยกับลูกน้อยของคุณ ซึ่งต้องแข็งแกร่งและอ่อนโยนต่อผิวพรรณ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับเมืองไทยในพื้นที่เขตร้อนต้องเหมาะกับการระบายอากาศทำความสะอาดได้ง่ายและเหมาะกับสรีระ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรจะทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรกๆ ก่อนตัดสินใจซื้อโดยตรง
  • อายุการใช้งานและความคุ้มค่ารวมไปถึงการปรับขยาย สิ่งเหล่านี้นั้นถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจอย่า เหมาะสมก่อนการตัดสินใจซื้อจริง ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มความคุ้มค่าทางด้านการจ่ายเงินออกไปในระยะยาวได้ขอบอกเลยว่าสำคัญมาก ๆ เลยทีเดียว

ปัจจัยและข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกซื้ออุปกรณ์คาร์ซีท ราคา ที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยหลักของข้อมูลเหล่านี้เป็นปัจจัยเบื้องต้นในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อแต่รับประกันได้เลยว่าคุณนั้นจะได้คาร์ซีทที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานกับรถยนต์ของคุณอย่างแน่นอน

จุดที่แตกต่างของความปลอดภัยกับอุปกรณ์ คาร์ซีท ราคา แพง

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้นั่นก็คือ คาร์ซีท ราคา แพงนั้นมีคุณสมบัติในการปกป้องการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้มากกว่าอุปกรณ์นิรภัยปกติที่ติดตั้งไว้ในรถถึง 2 เท่านั่นหมายความว่าถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ ลูกน้อยหรือบุตรหลานของคุณนั้นจะมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าเดิมอีกเท่าตัวนั่นเอง แน่นอนว่าการออกแบบให้มีการรองรับจุดเสี่ยงต่าง ๆ ที่ช่วยปกป้องได้มากกว่าการนั่งตักผู้ปกครองที่ไม่ว่าจะเป็นช่วงศีรษะกระดูกลำตัวหรือแม้กระทั่งกระดูกต้นคอ ก็จะได้รับความปลอดภัยมากกว่าเช่นเดียวกัน ซึ่งคุณนั้นสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างเหล่านี้ได้ แน่นอนเลยว่าคาร์ซีท ราคาประหยัดนั้นฟังก์ชันเหล่านี้จะได้น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

คาร์ซีท ราคา ที่เหมาะสมกับคนไทยควรเปรียบเทียบอย่างไร ที่ทำให้งบประมาณไม่บานปลาย

สำหรับข้อมูลการเปรียบเทียบ คาร์ซีท ราคา แล้วคุณภาพในปัจจุบันต้องขออนุญาตบอกตามตรงว่าได้ทำการศึกษาข้อมูลจากหลากหลายสถานที่เว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งแปลเป็นข้อมูลโดยรวมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและอ้างอิงได้ว่าให้ดูที่ความเหมาะสมกับการใช้งาน โดยเฉพาะถ้าหากคุณเดินทางไม่ไกลและพื้นที่ในการขับขี่นั้นมีการใช้ความเร็วที่ไม่สูงมากนักอุปกรณ์นั้นก็ไม่ต้องเป็นชุดใหญ่ในการจัดแจงแต่อย่างใด
แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเดินทางไกลเป็นประจำและใช้ความเร็วเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายได้อย่างทันท่วงทีก็ต้องขอแนะนำเลยว่าคุณนั้นควรจะซื้ออุปกรณ์นิรภัยในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งจะสามารถช่วยปกป้องความปลอดภัยของลูกน้อยของคุณได้มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนและนี่คือข้อมูลในการเปรียบเทียบจากเว็บไซต์ของฝั่งยุโรปและโซนเอเชีย

คุณภาพเสริมของ คาร์ซีท ราคา สูงไว้สำหรับการประกอบการตัดสินใจ 

สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติพิเศษ ที่น่าสนใจกับการตัดสินใจในการซื้อ คาร์ซีท ราคา แพงอีกแง่มุมนึงเลยก็ว่าได้ ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนนั้นยอมที่จะจ่ายเพิ่มเติมเพื่อคุณสมบัติที่มากกว่าปกตินั่นก็คือ 

  • ความอ่อนโยนของอุปกรณ์ต่อผิวเด็ก
  • สีสันรูปลักษณ์ที่ดูเข้ากับความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง
  • ฟังก์ชันการใช้งานเสริมอย่างเช่นปรับหรือหมุนได้
  • การรับประกันหลังการขาย

สิ่งเหล่านี้นั้นถือได้ว่าช่วยในการประกอบการตัดสินใจได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว ซึ่งคุณควรจะเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะกับการใช้งานของตนเอง ซึ่งนี่ถือว่าเป็นข้อแนะนำที่ดีมาก ๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องการซื้อคาร์ซีทให้คุ้มค่าคุ้มราคาโดยตรง

สรุปความน่าสนใจกับเรื่องราวของ คาร์ซีท ราคา โดนใจในปัจจุบัน

เห็นได้ชัดว่าข้อมูลเหล่านี้นั้นเป็นข้อมูลที่ดึงเอาเนื้อหาข้อสงสัยของใครหลาย ๆ คนมาตีแผ่จนกระจ่างและถ้าหากคุณต้องการนำไปเปรียบเทียบกับความต้องการทางด้านประโยชน์การใช้สอยก็ขอแนะนำให้นำไปปรับใช้ดูรับประกันได้เลยว่าจะต้องมีประโยชน์กับคุณอย่างแน่นอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *