DATE
20.11.2023

ทำไมการติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าเด็กเข้าเบาะรถยนต์ (Rear-Facing) จึงปลอดภัยกว่า 5 เท่า
• ติดตั้งแบบหันหน้าไปด้านหลัง หรือหันคาร์ซีทเข้าเบาะ จะสามารถปกป้องศีรษะ คอ และกระดูกสันหลังของเด็กได้ดีกว่า และช่วยป้องกันไม่ให้เด็กพุ่งออกไปข้างหน้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น
สามารถเลือกเป็นคาร์ซีทที่มีลักษณะปรับหมุนได้แบบ 360 องศา เพียงแค่ติดตั้งครั้งเดียว สามารถปรับการใช้งานได้ทั้งแบบการหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และแบบการหันหน้าไปทางหน้ารถ (Forward-Facing)

วิธีการติดตั้งคาร์ซีทตามช่วงอายุ
0-2 ขวบ ติดตั้งที่เบาะหลัง หันหน้าเข้าเบาะ ปรับเอนแบบนอน (หากคุณอยากติดตั้งคาร์ซีทไว้ตรงที่นั่งข้างคนขับ อย่าลืมปิดการทำงานของถุงลมนิรภัยเพื่อความปลอดภัย)
2-4 ขวบ ติดตั้งที่เบาะหลัง หันไปด้านหน้าตามปกติ ปรับเอนแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน
4-7 ขวบ ติดตั้งที่เบาะหลังแบบเพิ่มบูสเตอร์ ซึ่งก็คืออุปกรณ์ที่ทำให้เด็กที่โตขึ้นยังสามารถใช้คาร์ซีทอันเดิมได้ไม่ต้องเปลี่ยน หันไปด้านหน้าตามปกติ
อย่างไรก็ตาม วิธีการติดตั้งคาร์ซีทแบบกันหน้าเข้าเบาะ ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย และเซฟตี้มากที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรติดตั้งคาร์ซีทวิธีนี้ให้ลูกน้อยได้นั่งให้นานที่สุด

การติดตั้งคาร์ซีทที่ถูกต้อง
ทารก ควรนั่งแบบ Rear Facing
สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา แนะนำว่าทารก ควรนั่งแบบ Rear Facing หรือติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง จนกว่าจะอายุ 2 ขวบ หรือความสูงและน้ำหนักถึงเกณฑ์ เพราะคอของทารกยังไม่แข็งแรง
ไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะด้านหน้า
เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุ การทำงานของถุงลมนิรภัยจะทำให้เด็กเป็นอันตรายได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงควรเป็นการติดตั้งที่เบาะด้านหลัง
รัดเข็มขัดอย่างถูกต้อง
นอกจากเลือกคาร์ซีทที่มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุดแล้ว สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งข้อ คือ การรัดเข็มขัด ต้องรัดเข็มขัดอย่างถูกวิธี ไม่ปล่อยให้สายคาดหลวมเกินสอดได้นิ้วเดียว สายคาดอกควรอยู่บนอก และอุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ควรอยู่ในตำแหน่งที่ออกแบบมาอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยง และปกป้องลูกน้อยได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น
อ่านคู่มือก่อนติดตั้ง
การติดตั้งคาร์ซีทอาจเป็นเรื่องยากควรอ่านและปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด หรือจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตั้งให้ สุดท้ายเพื่อความปลอดภัยให้ลองขยับเบาะหลังการติดตั้ง หากติดตั้งได้ถูกต้อง คาร์ซีทไม่ควรขยับได้เกิน 1 นิ้วในทุกทิศทาง
ควรเลือกเบาะให้เหมาะกับวัย
การเลือกซื้อคาร์ซีท ควรยึดจากการออกแบบว่าเหมาะกับวัย ส่วนสูง และน้ำหนักของเด็กหรือไม่ และควรเปลี่ยนเมื่อเด็กโตเกินวัยนั่งเบาะเก่า และเด็กทารกก็ควรนั่งในที่นั่งสำหรับทารกโดยเฉพาะ
หากซื้อของมือสองต้องระวัง
คาร์ซีทมีอายุใช้งานส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 ปี แต่หากมีงบประมาณจำกัดอาจซื้อคาร์ซีทมือสอง ซึ่งในการซื้อคาร์ซีทมือสองต้องตรวจของให้ถ้วนถี่ ว่ามีส่วนใดแตกหัก บุบสลาย รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะมากับคาร์ซีทว่าอยู่ครบหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยของเด็ก
“คาร์ซีท“ นั้นมีประโยชน์ต่อเด็กเป็นอย่างมาก สามารถช่วยชีวิตยามเกิดอุบัติเหตุบนรถยนต์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงสร้างความสบายใจให้คุณพ่อคุณแม่เมื่อต้องพาลูกน้อยเดินทาง แม้ว่าคาร์ซีทอาจจะเป็นสินค้าที่มีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของเด็กแล้วถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า