เมื่อไหร่ควรจะต้องใช้คาร์ซีทแบบ BOOSTER SEAT

คาร์ซีท Car seat 9 1

DATE
15.12.2022

Booster Car Seat 01

บูสเตอร์ซีท (Booster Seat) เป็นที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็กที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับคาร์ซีท เพียงแค่ไม่มีเข็มขัดนิรภัยในตัวแบบ 5 จุด   เหมาะสำหรับเด็กโตที่อายุหรือขนาดตัวเกินกว่าจะใช้แบบเข็มขัด 5 จุด แต่ยังไม่สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้พอดี  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องยกก้นของเด็กให้สูงขึ้นพอสำหรับการใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างพอดี โดยให้สายเข็มขัดพาดไหล่เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
ของเด็กขณะเดินทาง

 

ลักษณะของ Booster Car Seat

            เบาะนั่งเสริมหรือ “บูสเตอร์ซีท” เป็นคาร์ซีทอีกรูปแบบหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นคาร์ซีทแบบสุดท้ายก่อนที่ลูกน้อยจะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้ตามปกติ โดยมีส่วนที่รองก้นเรียกว่า High Back Booster สำหรับรองนั่งอย่างเดียว และเบาะเสริมหลังที่จะช่วยดันด้านหลังให้พอดี เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 – 8 ปี หรือมีความสูง 142 เซนติเมตร

 

เมื่อใดที่เด็กควรเปลี่ยนจากคาร์ซีทมาใช้บูสเตอร์ซีท

            ผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำว่าควรให้เด็กใช้บูสเตอร์ซีทจากการอ้างอิงตามอายุ ซึ่งอาจจะเป็นช่วง 3 – 10 ปี หรือ 4 – 8 ปี แต่ในความเป็นจริงควรพิจารณาจากส่วนสูงและน้ำหนัก เพราะบูสเตอร์ซีทเป็นคาร์ซีทเหมาะสำหรับเด็กที่มีความสูงตั้งแต่ 100 – 145 เซนติเมตร และน้ำหนัก 15 – 36 กิโลกรัม ช่วยให้ตำแหน่ง ที่นั่งของลูกอยู่ในระดับเหมาะสมกับสายเข็มขัดนิรภัยมากกว่าคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กหรือการนั่งบนเบาะปกติของรถยนต์

 

เด็กควรเลิกใช้บูสเตอร์ซีทเมื่อไร

             เด็ก ๆ สมัยนี้ค่อนข้างเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับการเลี้ยงดูและโภชนาการอาหารที่ดี จึงอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ยึดตามหลักเกณฑ์ในเรื่องของอายุ น้ำหนัก และส่วนสูงเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเมื่อลูกสามารถนั่งเอาหลังพิงพนักและงอเข่าให้พ้นขอบเบาะได้แล้ว ส่วนสายเข็มขัดนิรภัยก็พาดทแยงกลางบ่าพอดีหรือพาดใกล้แขนโดยไม่พาดบริเวณคอ สายเข็มขัดนิรภัยด้านล่างพาดที่สะโพกกับต้นขาได้พอดี หากลูกนั่งในท่านี้อย่างสบายตัวได้ตลอดการเดินทาง ถึงจะเลิกใช้คาร์ซีทประเภทบูสเตอร์ซีทได้

 

คำแนะนำจากองค์กร Safe Kids Worldwide เกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็ก

            มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดหาคาร์ซีทประเภทบูสเตอร์ซีทสำหรับเด็ก ซึ่งน่าจะทำให้คนเป็น พ่อแม่อย่างเราต้องใส่ใจเลือกให้ถูกประเภทและเหมาะสมกับเด็กด้วยดังนี้

  • บูสเตอร์ซีทสามารถช่วยลดความเสี่ยงการได้รับความบาดเจ็บมากถึง 45%
    เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่คาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ตามปกติอย่างเดียว รวมถึงลด
    ความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากอุบัติเหตุบริเวณศีรษะ กระดูกสันหลัง และหน้าท้อง
  • เด็กควรนั่งบูสเตอร์ซีทจนกว่าจะสูงถึง 145 เซนติเมตร จึงจะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัย
    ของรถยนต์ตามปกติได้อย่างปลอดภัย
  • เด็กอายุ 4 – 10 ปี เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์เฉลี่ย 340 คนต่อปี
  • คุณพ่อคุณแม่ 9 ใน 10 คน ให้ลูกเลิกใช้บูสเตอร์ซีทก่อนที่จะโตพอสำหรับการใช้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ตามปกติได้อย่างปลอดภัย

     

เลือกซื้อบูสเตอร์ซีทแบรนด์ไหนดี

            ปัจจุบันแบรนด์ผู้ผลิตคาร์ซีทประเภทบูสเตอร์ซีทแต่ละแบรนด์ที่มีชื่อเสียงก็ผลิตออกมาได้มาตรฐานกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาอังกฤษ ญี่ปุ่น หรือ เกาหลี คุณพ่อคุณแม่เห็นว่าคาร์ซีทพรีเมี่ยมนำเข้าจากประเทศเหล่านี้ก็มั่นใจในคุณภาพได้เลย

 

บูสเตอร์ซีทมือสองสามารถใช้ได้หรือไม่

                        ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไม่แนะนำให้ใช้บูสเตอร์ซีทมือสอง เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่จะไม่ทราบว่าการใช้งานก่อนหน้านี้เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนหรือไม่ เช่นเดียวกับที่ไม่แนะนำให้ใช้คาร์ซีท มือสองนั่นเอง หากไม่ได้ตรวจสอบประวัติการใช้งานอย่างละเอียดหรือซื้อกับผู้ขายที่เป็นคนใกล้ชิดกล้าให้ข้อมูลการใช้งานอย่างตรงไปตรงมา

คุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ทุกคนที่ใช้รถยนต์และมีเด็ก ๆ ลูกหลานโดยสารบนรถด้วยนั้น
ควรให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ ตั้งแต่การเลือกคาร์ซีทหรือบูสเตอร์ซีทที่เหมาะสม กับแต่ละช่วงอายุของเด็ก ซึ่งพิจารณาได้จากน้ำหนักและส่วนสูงว่าเหมาะกับคาร์ซีทแบบไหน เมื่อไรที่ ควรใช้บูสเตอร์ซีทและเลิกใช้ รวมถึงพิจารณาแบรนด์ผู้ผลิตที่ได้รับการยอมรับถึงมาตรฐานการผลิต และความปลอดภัยระดับสากล เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ บนท้องถนนตลอดการเดินทาง

babyhillsthailand logo new
img line@
test

บริษัท เบบี้ ฮิลล์ จำกัด
111 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150

footer img 06

084-364-4445

02-010-4163