
สถานการณ์โควิด-19 ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ ในเร็ววัน เห็นได้จากข่าวของการกลายพันธุ์อยู่เรื่อย ๆ ของไวรัสโคโรน่าตัวนี้ การป้องกันลูกน้อย ตั้งแต่ช่วงวัยทารก เด็กเล็ก เด็กโต และวัยรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ที่ยังคงไม่มีวัคซีนรองรับ จึงจำเป็นต้องป้องกันด้วยวิธีการที่ช่วยลดความเสี่ยง อย่าง “การทำความสะอาด” เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสรอบตัวเด็ก ๆ สอนให้ลูกใช้ Mask เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ และล้างมือบ่อยๆ (อย่างถูกวิธี) ในกรณีที่คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับลูกแทน
บทความนี้ Baby Hills Thailand ขอรวบรวมวิธีทำความสะอาดบ้าน เพื่อให้พ่อแม่ทุกท่านมั่นใจได้ว่า เด็ก ๆ จะปลอดภัยห่างไกลจากเชื้อเหล่านี้กัน
1. แบ่งโซนพื้นที่สัมผัสเยอะ – น้อย
เริ่มแรกขอแนะนำให้แบ่งโซนพื้นที่ภายในบ้าน ตรงส่วนไหนมีโอกาสที่คุณและคนอื่น ๆ ภายในบ้านที่ต้องออกจากบ้านบ่อย ๆ จะมีโอกาสสัมผัสเยอะ – น้อยบ้าง เพื่อเลือกโซนให้เด็ก ๆ ได้อยู่ตรงพื้นที่ที่มีโอกาสเสี่ยงสัมผัสเชื้อน้อยที่สุด และจะได้จัดความถี่และหาวิธีทำความสะอาดบ้านแต่ละโซนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งบางจุดอาจจะใช้แค่แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาด ไม่ต้องใช้น้ำยาหรือวิธียุ่งยากเลย
แม้บ้านแต่ละหลังจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่พื้นผิวที่ถูกคนในบ้านสัมผัสบ่อย ๆ จะคล้าย ๆ กันและควรใช้แอลกฮอล์เช็ดทุกวัน ได้แก่ ลูกบิดประตู (โดยเฉพาะลูกบิดประตูเข้าออกบ้านและห้องน้ำ) โต๊ะ – เก้าอี้ ราวจับบันได พื้นผิวในห้องน้ำ หัวก็อกน้ำ ชักโครกสวิตช์ไฟ โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างเม้าส์และคีย์บอร์ด รีโมททีวี รีโมทแอร์ จอยสติ๊กสำหรับเล่นเกม และของเล่นชิ้นโปรดของลูกน้อย
2. ใช้วิธีทำความสะอาดเบื้องต้นตามปกติเท่าที่พอทำได้
ถึงแม้ว่า เชื้อโควิด-19 จะดูรุนแรง เพราะแพร่เชื้อกระจายได้ไว แต่ถ้าไม่ได้เข้าสู่ร่างกาย เชื้อก็อาจจะไม่ได้แข็งแรงพอจะทนพวกสารทำความสะอาดทั่วไป อย่าง สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน สารฟอกขาว ฯลฯ อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสามารถใช้วิธีทำความสะอาดได้ตามปกติ ถ้าเป็นเนื้อผ้าก็อาจจะนำไปซักแล้วอบลมร้อน (ถ้าเนื้อผ้าทนความร้อนได้) ถูพื้นไม้ พื้นปูนก็อาจจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อผสมกับน้ำ 1 ต่อ 3 แล้วนำไปเช็ดถูปล่อยให้แห้ง หรือ บางอย่างที่ซักสัมผัสสารเคมีไม่ได้ อาจจะหาวันว่าง ๆ ไปตากแดดดู เพราะความร้อนก็สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้เหมือนกัน
แนะนำเพิ่มเติม: ช่วงที่ทำความสะอาดควรสวมใส่แมส และถุงมือยางแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสที่อาจติดอยู่บนพื้นผิวโดยบังเอิญด้วย
3. จ้างองค์กรภายนอกมาทำเพิ่มเติม
โดยที่อาจจะแบ่งช่วงเวลาซัก 1 – 2 เดือนครั้ง หรือหลังมีผู้เสี่ยงสูงมาเป็นแขกแล้วสัมผัสของในบ้าน จ้างองค์กรที่ใช้วิธีทำความสะอาดบ้านแบบมีเครื่องมือพร้อมฆ่าเชื้อไวรัสโควิด – 19 โดยตรง เช่น เครื่องพ่นละอองฝอย พร้อมน้ำยากลูตารัลดิไฮด์ จะมีสารตกค้างหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่บริษัททำความสะอาดเลือกใช้ ตัวอย่าง บริการพ่นฆ่าเชื้อไวรัส จาก Baby Hills Thailand ที่มีน้ำยาชนิด High Level Disinfection มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน ไม่มีสารตกค้างที่อาจเป็นอันตรายกับสุขภาพของลูกน้อย
นอกเหนือจากการฉีดพ่นฆ่าไวรัส ยังมีการอบโอโซน ที่อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกพื้นที่ภายในบ้านจะไม่มีเชื้อโรคหรือเชื้อใด ๆ สะสม แต่อย่าลืมดูว่า ต้องเป็นองค์กรที่มีมาตรฐานที่ใช้วิธีการทำความสะอาดที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรอง มีความเป็นมืออาชีพและเชื่อได้ว่า จะไม่เสี่ยงเอาเชื้อเข้ามาในบ้าน
4. รีบทำความสะอาดตัวเองตั้งแต่เพิ่งถึงบ้าน
บ้านอาจอยู่กับที่ ไม่มีคนนอกเข้ามาก็ไม่มีเชื้อ จะมีโอกาสมีเชื้อไวรัสภายในบ้านได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกภายในบ้านนำเข้ามา อีกวิธีที่ช่วยป้องกันเชื้อโควิดนอกเหนือจาก การล้างมือบ่อย ๆ และวิธีทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ คือ ทำความสะอาดตัวคุณเองตั้งแต่ถึงบ้าน เตรียมชุดไว้บริเวณห้องน้ำก่อนออกจากบ้าน พอกลับมาอย่าเพิ่งทำกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดกระเป๋าและสัมภาระที่นำเข้ามาจากข้างนอก ล้างมือ และรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดทันที ก็จะลดโอกาสเสี่ยงที่อาจจะนำเชื้อโควิดเข้ามาติดตามมุมต่าง ๆ ภายในบ้านได้แล้ว
5. ทำความสะอาดของอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ที่ซื้อเข้ามา
การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกอาจจะเป็นข้อที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่เราจะติดเชื้อจากการสัมผัสพื้นผิวหรือสิ่งของที่มีเชื้อปะปนอยู่เช่นถุงพลาสติก หีบห่อบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ แล้วเราก็เผลอใช้มือนั้นสัมผัสใบหน้า ทิ้งบรรจุภัณฑ์และหีบห่อที่ไม่จำเป็นลงถังขยะที่มีฝาปิดสนิท เช็ดทำความสะอาดกระป๋องหรือขวดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ (หรือล้างด้วยน้ำยาล้างจานก็ได้) ก่อนเก็บเข้าตู้เย็น ล้างสินค้าที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์อย่างผักและผลไม้โดยให้น้ำไหลผ่านและแช่ด่างทับทิม
6. ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพ
ไม่ว่าจะเพราะสถานการณ์โรคแพร่ระบาดอย่างโควิด-19 หรือปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว PM 2.5 ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องกรองอากาศ (Air Purifier) ภายในบ้านก็ค่อย ๆ กลายมาเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่หลายครัวเรือนซื้อติดบ้านไว้ โดยจะต้องเป็นเครื่องกรองอากาศที่ใช้ไส้กรองแบบ HEPA ประเภทที่คุณภาพสูงมาก ถักทอจนมีขนาดที่เล็กมาก จนสามารถที่จะกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากได้ (มองหาเครื่องกรองที่สามารถกรองเชื้อไวรัสต่าง ๆ เช่น H1N1 ก็ถือว่าสามารถกรองไวรัสโคโรน่าได้เช่นกัน)
คำแนะนำเพิ่มเติม: อย่าลืมว่าเครื่องกรองอากาศนั้นทำงานโดยการกรองอากาศที่หมุนเวียนในห้อง หากว่าอากาศในห้องไม่ได้ถูกกรองก่อนที่เชื้อจะเข้าไปในร่างกายของเรา ก็จะไม่สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ อีกทั้งไวรัสนั้นมีแนวโน้มที่จะตกอยู่บนพื้นผิวมากกว่าลอยอยู่ในอากาศ วิธีนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการป้องกันโดยตรงที่มีประสิทธิภาพเท่าการล้างมือและทำความสะอาดพื้นผิว แต่ก็สามารถใช้เพื่อเสริมความมั่นใจได้ หลังจากที่ทำความสะอาด และระมัดระวังตัวเต็มที่แล้วนั่นเอง
ส่งท้าย
นอกจากวิธีทำความสะอาดบ้านแล้ว อย่าลืมใส่ใจในส่วนอื่น ๆ เพื่อป้องกันตัวเองและเด็ก ๆ ให้ห่างไกลจากโควิด-19 ด้วย เช่น รักษาระยะห่างเมื่ออยู่ข้างนอก กักตัวเมื่อเจอสถานการณ์เสี่ยงติดเชื้อ ทำความสะอาดพัสดุหรือของที่ได้จากเดลิเวอรี่ทุกครั้ง เป็นต้น เพียงเท่านี้ทุกคนภายในบ้านก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตโควิดไปด้วยกันอย่างปลอดภัย สบายใจ หายห่วง!