วิธีรับมือเมื่อลูกขึ้นรถแล้วร้อง

calming a crying baby in car seat

วิธีรับมือเมื่อลูกขึ้นรถแล้วร้อง: คู่มือฉบับพ่อแม่ใจเย็น

หนึ่งในสถานการณ์ที่พ่อแม่หลายคนเจอบ่อยคือ เมื่อลูกน้อยเริ่มงอแงหรือร้องไห้ระหว่างการเดินทางในรถ การที่เด็กไม่ยอมนั่ง คาร์ซีท หรือร้องไห้ไม่หยุดอาจทำให้พ่อแม่รู้สึกเครียดและหงุดหงิด บางครอบครัวถึงขั้นต้องหยุดเดินทางกลางคัน

ความเข้าใจพฤติกรรมเด็กและการเตรียมตัวอย่างถูกวิธีจะช่วยให้พ่อแม่สามารถจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างมั่นใจและอ่อนโยน โดยไม่จำเป็นต้องใช้อารมณ์หรือวิธีที่สร้างความเครียดให้เด็กมากขึ้น

วิธีรับมือเมื่อลูกขึ้นรถแล้วร้อง: คู่มือฉบับพ่อแม่ใจเย็น

1. ทำไมเด็กจึงงอแงเมื่อนั่งคาร์ซีท?

เด็กเล็กมีระบบประสาทที่ยังไม่สมบูรณ์ พวกเขาอาจรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อต้องอยู่คนเดียวในเบาะ คาร์ซีท โดยห่างจากพ่อแม่ แม้เพียงไม่กี่เซนติเมตร นอกจากนี้ อุณหภูมิที่ไม่สบายตัว หรือความเบื่อระหว่างทางก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมร้องไห้ได้

2. เทคนิคเบี่ยงเบนความสนใจอย่างสร้างสรรค์

หนึ่งในวิธีที่ได้ผลคือการใช้เสียงเพลงเบา ๆ หรือเสียง white noise ซึ่งมีผลต่อสมองเด็กในแง่ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและสงบมากขึ้น  ข้อมูลเรื่อง white noise กับเด็กทารกจาก Sleep Foundation

นอกจากนี้ยังสามารถเตรียมของเล่นเฉพาะสำหรับ “รถยนต์เท่านั้น” เช่น ตุ๊กตาที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง หนังสือผ้าหรือของเล่นที่ติดกับคาร์ซีทโดยไม่หลุดหล่นได้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความรู้สึกอึดอัด

3. อย่าลืมเรื่องของ “กลิ่น” และ “ความรู้สึกคุ้นเคย”

ผ้าห่มที่มีกลิ่นเฉพาะของบ้าน หรือของคุณแม่ อาจช่วยให้ลูกผ่อนคลายมากขึ้น เพราะกลิ่นเหล่านี้ส่งผลต่อระบบ limbic ในสมอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้สึกปลอดภัย ลองนำผ้าห่มของลูกติดรถไว้เป็นประจำ เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าเขาอยู่ในที่ที่คุ้นเคยแม้อยู่บนท้องถนน

4. ใช้พลังเสียงของพ่อแม่ให้เป็นประโยชน์

เด็กอาจยังไม่เข้าใจภาษา แต่เสียงของคุณพ่อคุณแม่คือเสียงที่เขาคุ้นเคยและเชื่อมั่น การพูดคุยด้วยน้ำเสียงสงบ การร้องเพลงกล่อม หรือแม้กระทั่งเสียง “ฮัม” เบา ๆ จะช่วยลดระดับความตื่นตัวในสมองของเด็ก และช่วยให้เขาสงบลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. หยุดพักเมื่อจำเป็น: อย่าฝืนเดินทางต่อ

หากเด็กยังคงร้องไห้ไม่หยุดแม้ใช้เทคนิคต่าง ๆ แล้ว การจอดพักเพื่อปลอบลูกในอ้อมแขน เป็นสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรฝืนขับรถต่อในขณะที่เด็กตื่นตระหนก เพราะนอกจากจะอันตรายต่อเด็กแล้ว ยังทำให้พ่อแม่เครียดจนเสียสมาธิในการขับขี่ด้วย

การหยุดพักสั้น ๆ อาจเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่ช่วยให้ลูกมีโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศ หายใจลึก ๆ และปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นก่อนกลับเข้าสู่ คาร์ซีท อีกครั้ง

6. อย่าใช้รางวัลหรือขนมเป็นเครื่องต่อรอง

แม้การให้ขนมหรือของเล่นเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจที่ได้ผลในระยะสั้น แต่ในระยะยาวอาจทำให้ลูกเรียนรู้ว่า “การงอแง = ได้รางวัล” ทางที่ดีควรเน้นที่การสร้างความคุ้นเคยกับคาร์ซีทอย่างค่อยเป็นค่อยไปแทน

7. ฝึกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทาง

อีกหนึ่งวิธีที่ดีคือให้ลูกขึ้นรถแล้วร้อง ให้ฝึกนั่งคาร์ซีทในบ้านวันละ 10-15 นาที ขณะฟังเพลงหรือดูนิทานแบบวิดีโอ เพื่อให้คุ้นเคยกับการอยู่ในเบาะโดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ วิธีนี้จะช่วยลดแรงต้านเมื่อถึงเวลาต้องเดินทางจริง 

สรุป

การรับมือกับลูกที่งอแงบนรถไม่ใช่เรื่องยาก หากพ่อแม่มีความเข้าใจในพฤติกรรมและความรู้สึกของลูกน้อย การเตรียมตัวที่ดีและการใช้ Car Seat ที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยให้เด็กปลอดภัย แต่ยังทำให้การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่อบอุ่นสำหรับทั้งครอบครัว

จำไว้ว่าความใจเย็นคือกุญแจสำคัญ พ่อแม่ที่รู้วิธีรับมืออย่างนุ่มนวลคือแบบอย่างที่ดีที่สุดให้กับลูก หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกและใช้งานคาร์ซีท สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Babyhillsthailand

Leave a Reply